Express Entry: แคนาดามีความต้องการบุคลากรที่มีคุณสมบัติเหมาะสมเพื่อมาขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมของประเทศอย่างต่อเนื่อง ระบบ Express Entry เป็นระบบที่ใช้ในการบริหารจัดการใบสมัครของผู้ย้ายถิ่นฐานใน 4 โครงการหลัก ได้แก่ • โครงการแรงงานฝีมือของรัฐบาลกลาง (Federal Skilled Worker Program) • โครงการแรงงานช่างฝีมือของรัฐบาลกลาง (Federal Skilled Trades Program) • โครงการผู้มีประสบการณ์ทำงานในแคนาดา (Canadian Experience Class) • โครงการเสนอชื่อจากมลรัฐ (Provincial Nominee Programs: PNP) ระบบนี้ช่วยให้รัฐบาลแคนาดาคัดเลือกผู้สมัครที่มีศักยภาพในการตั้งรกรากและประสบความสำเร็จในประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ

พลเมืองแคนาดาหรือผู้ที่มีสถานะเป็นผู้มีถิ่นที่อยู่ถาวรของแคนาดาสามารถสนับสนุนคู่สมรสของตน, คู่ชีวิตทางกฎหมาย, คู่ชีวิตเพศเดียวกัน, คู่รักที่ยังไม่ได้รับการจดทะเบียน, หรือบุตรที่อยู่ทั้งในและนอกแคนาดาให้ได้รับสถานะเป็นผู้มีถิ่นที่อยู่ถาวร โดยทั้งผู้สนับสนุนและญาติที่ถูกสนับสนุนต้องปฏิบัติตามเกณฑ์และข้อกำหนดที่กำหนดไว้

โครงการสำหรับผู้ประกอบอาชีพอิสระเปิดโอกาสให้บุคคลที่มีคุณสมบัติเหมาะสมสามารถย้ายถิ่นฐานมาเป็นผู้อยู่อาศัยถาวรในประเทศแคนาดา ผู้สมัครต้องแสดงให้เห็นถึงประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องในสายงานเฉพาะของตนภายในระยะเวลา 5 ปี ก่อนวันที่ยื่นใบสมัคร

Individuals with prior caregiving experience may qualify for Canada’s specialized Caregiver Programs. These programs offer qualified caregivers multiple pathways to work in Canada, including temporary work permits and

Ararat Canada ให้บริการด้านกฎหมายอย่างมืออาชีพแก่ผู้ที่ขอรับความคุ้มครองในฐานะผู้ลี้ภัยต่อคณะกรรมการตรวจคนเข้าเมืองและผู้ลี้ภัยแห่งแคนาดา (Immigration and Refugee Board of Canada) เราเข้าใจถึงความซับซ้อนของกระบวนการยื่นคำร้องขอเป็นผู้ลี้ภัย และมุ่งมั่นที่ที่จะให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ผู้ที่ต้องการความคุ้มครองจากประเทศแคนาดา

เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจะประเมินคำร้องขอถิ่นที่อยู่ถาวรตามหลักมนุษยธรรมและความเห็นอกเห็นใจ (H&C) โดยพิจารณาจากข้อมูลและเอกสารประกอบที่ผู้สมัครจัดเตรียมมาอย่างรอบด้าน การตัดสินใจจะกระทำขึ้นอย่างรอบคอบโดยคำนึงถึงสถานการณ์เฉพาะตัวของผู้สมัครแต่ละราย และระดับความจำเป็นที่อาจสมควรได้รับการผ่อนผันตามหลักมนุษยธรรมและความเห็นอกเห็นใจ

นักเรียนต่างชาติที่ประสงค์จะศึกษาต่อในสถาบันการศึกษาของแคนาดาจะต้องขอใบอนุญาตเรียน/วีซ่านักเรียน (Study Permit) ก่อนเริ่มต้นการศึกษา โดยผู้สมัครจะต้องได้รับจดหมายตอบรับจากสถาบันการศึกษาที่ได้รับการรับรองจากรัฐบาลแคนาดา (Designated Learning Institution: DLI) ซึ่งเป็นเงื่อนไขสำคัญในการขอใบอนุญาตดังกล่าว

โปรแกรม International Experience Canada เปิดโอกาสให้เยาวชนจากประเทศที่มีข้อตกลงร่วมกับแคนาดาได้สัมผัสประสบการณ์การเดินทาง, ศึกษา, และทำงานในแคนาดา หากคุณมีคุณสมบัติตามที่กำหนดคุณสามารถแสดงความประสงค์และสมัครเข้าร่วมโปรแกรมนี้ได้

ชาวต่างชาติที่ประสงค์จะเดินทางเข้าแคนาดาอาจจำเป็นต้องขอวีซ่าท่องเที่ยว ซึ่งเรียกอย่างเป็นทางการว่า วีซ่าผู้พำนักชั่วคราว (Temporary Resident Visa: TRV) ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับสัญชาติของผู้เดินทาง โดยข้อกำหนดในการขอวีซ่าจะแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ บางประเทศได้รับการยกเว้นไม่ต้องขอวีซ่า ขณะที่อีกหลายประเทศต้องได้รับอนุมัติก่อนเดินทาง

วีซ่าซูเปอร์สำหรับบิดาและมารดาหรือปู่ย่าตายาย (Parent and Grandparent Super Visa) เปิดโอกาสให้ผู้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมสามารถเดินทางไปเยี่ยมครอบครัวในประเทศแคนาดาได้ครั้งละสูงสุดถึง 2 ปี โดยสำนักงานการย้ายถิ่นฐาน ผู้ลี้ภัย และสัญชาติแคนาดา (Immigration, Refugees and Citizenship Canada: IRCC) อาจออกวีซ่าแบบเข้าประเทศได้หลายครั้ง (Multiple-Entry Visa) ซึ่งมีอายุการใช้งานได้นานสูงสุดถึง 10 ปี

โปรแกรมนี้ให้สิทธิ์แก่นายจ้างในการจ้างงานคนต่างด้าวแบบชั่วคราวโดยไม่ต้องมีการประเมินผลกระทบต่อตลาดแรงงาน (LMIA) โดยในกรณีส่วนใหญ่นายจ้างจำเป็นต้องส่งข้อเสนองานผ่านทางพอร์ทัลของนายจ้าง

Ararat Canada ให้บริการคำปรึกษาอย่างเชี่ยวชาญในทุกขั้นตอนของการยื่นเรื่องการย้ายถิ่นฐาน ไม่ว่าจะเป็นการขอถิ่นที่อยู่ถาวร การต่ออายุบัตรผู้พำนักถาวร การขอสัญชาติ เอกสารการเดินทาง และบริการด้านหนังสือเดินทาง เรามุ่งมั่นในการให้คำแนะนำที่เป็นมืออาชีพ พร้อมดูแลลูกค้าอย่างใกล้ชิดตลอดกระบวนการ

ให้บริการด้านกฎหมายอย่างมืออาชีพสำหรับผู้ที่ต้องการอุทธรณ์คำตัดสินด้านตรวจคนเข้าเมืองที่ไม่เป็นผลในทางบวก เราช่วยให้ลูกค้าเข้าใจสิทธิในการอุทธรณ์ของตนเอง และดำเนินการในกระบวนการอุทธรณ์ที่ซับซ้อน ไม่ว่าจะเป็นกรณีการถูกปฏิเสธคำขอวีซ่าหรือการไม่ได้รับการคุ้มครองในฐานะผู้ลี้ภัย